หลังจากไม่เข้ารอบ 16 คนในที่สุดในริโอเกมส์แบบน่าแค้นใจ ได้ทำให้ “เจ้าสด” รู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก เพราะก่อนไปแข่งขันโอลิมปิก เขาได้ทุ่มเท ฝึกซ้อมอย่างเต็มที่เพื่อคว้าเหรียญ โอลิมปิกมาครองให้ได้ แต่ว่าในที่สุด ฝันต้องสลายไปในพริบตา ด้วยการตัดสินที่อยุติธรรม
“ฉัตร์ชัย เดชา” ได้เผยว่า ความผิดหวังในตอนนั้นได้ทำให้เขาตัดสินใจที่จะเลิกแล้ว เนื่องจากทำใจไม่ได้กับการตัดสินอย่างงี้ แต่ว่าคุณสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายพัฒนาวิธี สัมพันธ์มวยสากลที่เมืองไทย ได้ขอให้เจ้าตัวสู้ต่อไป เนื่องจากในตอนนั้นยังมีอายุเพียง 31 ปี ซึ่งยังสามารถต่อยได้อีกหลายปี
ซึ่งเป็นการบอกให้กับแฟนกีฬาชาวไทยได้ทราบว่า เขายังมีฝีมือรวมทั้งความกระหายมากพอ ในการไล่ล่าเหรียญโอลิมปิกให้กับประเทศ หากแม้อายุจะอยู่ในตอนตอนปลายของการรับใช้ชาติและก็ตาม
นักต่อยพ่อลูกหนึ่ง ได้บอกว่า จริงๆแล้ว ในไฟต์ที่แพ้นักต่อยเวียดนามจนถึงตกรอบรองชนะเลิศ ของศึกเลือกเฟ้นโอลิมปิก 2020 จนถึงต้องมาชิงโควตาในชั้นที่ 5-6 ได้พูดกับตัวเองว่า ถ้าหากชวดตั๋วไปโอลิมปิก ก็จะวางมือแล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้นักต่อยรุ่นน้อง ไปชิงโควตาโอลิมปิกในสนามที่ 2 แทน
การคว้าโควต้ามาชิงชัยโอลิมปิก 2020 ได้นับเป็นสิ่งที่ภูมิใจมาก ซึ่งมีนักชกไทยเพียงไม่กี่คน ที่สามารถคว้าโควต้าไปแข่งโอลิมปิกได้ 3 ยุคติดต่อกัน แล้วก็จะขอเลิกหลังจากต่อยโอลิมปิกเกมส์เสร็จ ในทันที!!
เพราะอยากให้เวลากับครอบครัวเพิ่มขึ้น โดยในเวลานี้ภรรยากำลังตั้งท้อง ลูกสาวผู้ที่ 2 รวมทั้งจะมีกำหนดคลอด ในตอนต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นตอนไม่กี่วัน ก่อนที่จะเขา จะเริ่มเดินทาง ไปทึกศึกโอลิมปิกเมืองโตเกียวเกมส์
แม้ว่า การคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกจะเป็นภารกิจที่ยากที่สุดในชีวิต แต่การที่บุตรสาวคนเล็ก กำลังจะลืมตามาดูโลก ก่อนที่คุณพ่อจะไปต่อย ในโอลิมปิกเกมส์ไม่กี่วัน ก็เลยทำให้ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี จะเกิดกำลังใจ เป็นอย่างดี สำหรับ เพื่อการไล่ล่าเหรียญรางวัล จากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ มาครอบครองให้ได้ ก่อนที่จะเขา จะจบสิ้นประกาศเลิก เลิกทางการบริการชาติ เป็นเวลายาวนานกว่า 15 ปี อย่างเป็นทางการ
ติดตามทุกเรื่องราว ข่าวใหม่ๆได้ที่ >>>r1champion<<<