พระจันทร์ฉาย รับต้องปรับตัว ถ้าอยากดังใน วัน แชมเปียนชิพ

พระจันทร์ฉาย รับต้องปรับตัว “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” หลังจากเซ็นสัญญาเข้าสู่ชายคา วัน แชมเปียนชิพ มาหมาด ๆ เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา เขาก็เข้าคอร์สติวเข้มเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมหากได้รับสัญญาณเบิกตัวขึ้นสังเวียนเป็นครั้งแรก โดยเจ้าตัวยอมรับว่าต้องปรับตัวในหลายด้านหากต้องการจะไปให้สวยในการบุกตลาดอินเตอร์

หลังจากที่ค่าย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม ส่งนักชกในค่ายหลายคนเข้าประกวดในสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ แต่ละคนก็พยายามงัดฝีมือและความเป็นตัวตนออกมา โดยล่าสุด “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม” เพิ่งจะเปิดตัวแบบสุดปังตั้งแต่ไฟต์แรก เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ถึงตา พระจันทร์ฉาย จะได้ฉายแสงบนเวทีระดับโลกบ้าง

แม้อายุเพียง 26 ปี แต่ พระจันทร์ฉาย ผ่านศึกมวยไทยมามากถึง 400 ไฟต์ มีเกียรติประวัติติดตัว ทั้งแชมป์สนามมวยเวทีราชดำเนิน รุ่น 105 ป. และ 112 ป., แชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี รุ่น 118 ป. และ 122 ป., แชมป์ S-1 รุ่น 115 ป. ตลอดจนแชมป์มวยสากล WBA Asia South รุ่น 118 ป. และ 126 ป.

และถึงเขาจะไม่มีตำแหน่งยอดมวยที่ถือว่าเป็นเกียรติประวัติสูงสุดของนักมวยไทยพ่วงปลายนวม  แต่ด้วยฝีไม้ลายมือที่เปรียบเปรยกันว่าโคลนนิ่งมาจาก “โคตรมวย” อย่าง “แสนชัย” พี่ใหญ่ของค่าย นั่นก็เพียงพอที่การรันได้ว่าฝีมือ พระจันทร์ฉาย ไม่เป็นสองรองใคร แถมยังได้รับการยกย่องว่าเป็นเบอร์หนึ่งของรุ่นเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ พร้อมถูกหมายตาว่าจะเป็นนักชกไทยอีกคนหนึ่งที่มีศักยภาพไปไกลถึงระดับโลก

แต่ถึงอย่างนั้น การก้าวขึ้นสู่เวที วัน แชมเปียนชิพ เป็นเหมือนการพลิกชีวิตครั้งสำคัญของ พระจันทร์ฉาย ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการชกในกรงด้วยนวมเล็กตามสไตล์ วัน แชมเปียนชิพ นั้น แตกต่างจากมวยไทยที่เขาคุ้นเคยอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น เขาจึงต้องเตรียมตัวให้ดีที่สุด หากต้องการโชว์ผลงานให้ถูกใจทั้งกรรมการและแฟน ๆ ที่ติดตาม วัน แชมเปียนชิพ

“ผมต้องปรับเปลี่ยนทุกอย่างเลยครับ ตอนนี้ทางค่ายได้ซื้อกรงมาแล้วเพื่อให้เราทำความคุ้นเคยก่อนลงสนามจริง แล้วก็ซ้อมด้วยนวม MMA ซึ่งมันแตกต่างจากการซ้อมมวยไทยแบบเดิม คือสนามไม่ใช่เชือกให้เราเด้งได้ แต่นี่เป็นลูกรง ถ้าเราเตะผิดต่อยผิด ก็จะไปโดนกรงทำให้เราบาดเจ็บได้ ก็ต้องระวัง”

“ที่สำคัญ ที่ทางค่ายเน้นย้ำเสมอ คือ การปรับสไตล์การชกแบบยกเครื่องใหม่หมด ตอนเราต่อยมวยไทย ส่วนใหญ่ ยกหนึ่ง ยกสอง เราออมแรง จะมาออกอาวุธกันจริง ๆ ยกสาม ยกสี่ พอถึงยกห้าบางทีก็ผ่อนเกมแล้ว แต่ใน วัน แชมปเปียนชิพ ทำอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าระฆังดังปุ๊บ เราต้องขยันออกอาวุธให้ชัดเจนทุกยก ไม่ว่าจะชก 3 ยกหรือ 5 ยก ทุกยกมีผลหมด เราจึงต้องวางแผนการซ้อมไปจากที่ค่าย เพื่อที่เราจะได้มีกำลังอยู่ตัว และยืนระยะได้ตลอดจนครบยก”

การปรับเปลี่ยนในช่วงแรกอาจทำให้ พระจันทร์ฉาย ติดขัดอยู่บ้าง แต่ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ประกอบความมีวินัยในการฝึกซ้อม เขาเชื่อว่าเส้นทางใหม่ของเขาใน วัน แชมเปียนชิพ จะต้องไปได้อีกไกลแน่นอน เพราะเขาจะไม่หยุด ถ้าไม่ถึงจุดหมายสูงสุดในการคว้าแชมป์โลก

“ผมถือว่าผมได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการเข้ามาอยู่กับ ONE ถ้าต้องปรับเปลี่ยนอะไรผมก็พร้อมที่จะเปลี่ยน และผมก็จะงัดเอาความสามารถที่มีออกมาให้หมด เพื่อโชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้ต่างชาติได้รับรู้ครับ” 

สนใจอ่านข่าวเพิ่มเติม:     r1champion.com

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here